Friday 21 October 2011

"บะหมี่โอเดี้ยน"ย้ายร้านใหม่อร่อยเหมือนเก่า / แม่ช้อยนางรำ

"บะหมี่กวางตุ้ง" เส้นพิเศษตีเองฮ่องกงยังต้องมาซื้อไปขาย
      บะหมี่ปูทะเล..เกี๊ยวกุ้งร้านเก่าเจ้าประจำ
       ย้ายทำเลใหม่ห่างจากที่เดิม 100 เมตร
       สะดวกสบายขายดี เพราะมีที่จอดรถหน้าร้าน"
   
       จำร้านบะหมี่ปูทะเลก้ามยักษ์ที่อยู่สี่แยกโอเดี้ยนได้มั๊ยเจ้าค่ะ
   
       ตอนนี้เขาย้ายร้านแล้ว ร้านเก่าที่อยู่ติดกับวัดไตรมิตรตอนนี้ถูกรื้อสร้างเป็นรั้วของวัดเพื่อให้เห็นทัศนียภาพพระเจดีย์ทองเหลืองอร่ามสวยงาม
   
       แต่ร้านใหม่ที่เขาย้ายไป ก็อยู่ไม่ไกลจากร้านเก่าสักเท่าไร

"ก้ามปูทะเล" คัดพิเศษใหญ่กว่าที่ไหน..ไหน
       หากจะเดินไปทางสามแยกอีกประมาณ 100 เมตรสังเกตให้ดีฝั่งซ้ายมือเยื้อง..เยื้องจากร้านเก่าไม่เท่าไหร่ ดูเหมือนจะติดธนาคารอะไรไม่รู้จำไม่ได้ แต่มองดูป้ายที่แขวนเอาก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า
   
       "โอเดี้ยน" เจ้าเก่าเยาวราช..ที่นั่นแหละใช่แล้วไม่ผิดร้านหร๊อกจะบอกให้
   
       -ชื่อร้าน โอเดี้ยน
       -อาหารแนะนำ บะหมี่ปูทะเล เกี๊ยวกุ้งทอด
       -สถานที่ตั้ง ถนนเจริญกรุง ใกล้กับสี่แยกกวดวิชาอาจารย์ปิง ดาวอง โทรศัพท์ 08-4701-4042
       -ประเภทร้าน เป็นตึกแถวโบราณ 1 คูหา มีเครื่องปรับอากาศ จอดรถหน้าร้าน
       -ราคาบริการ อาหารเริ่มต้นที่ 25 บาท แต่ก้ามปูราคาตามขนาดสั่ง เปิดบริการขายทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 -21.00 น. หยุดวันอังคารสุดท้ายของเดือน
       -มาตรฐาน *** หนึ่งดาวอร่อย/หนึ่งดาวสะอาด/หนึ่งดาวราคายุติธรรม
   
       ความอร่อยของบะหมี่ร้านนี้ เริ่มกันตั้งแต่เส้นบะหมี่ก่อน ก็ต้องเขียนเรียนพระเดชพระคุณว่า

บะหมี่ปูทะเล..เกี๊ยวกุ้งทะเลแถมน้ำซุป..แต่ไม่ใช่น้ำทะเลนะจ๊ะ!!
       เส้นบะหมี่ของเขาเป็นเส้นบะหมี่กวางตุ้งแท้ คือใส่ไข่เยอะใส่แป้งน้อย
   
       เส้นบะหมี่จึงหอมอร่อยและก็ลวกไม่แฉะ รวมทั้งลักษณะเส้นกลมไม่แบนเหมือนบะหมี่แต้จิ๋ว ก็เรียกว่าหิวไม่หิวก็โซ้ยเกลี้ยงชาม
   
       แต่อร่อยพิสดารคือเป็นบะหมี่กวางตุ้งแท้ คือจะต้องใส่เนื้อปูทะเลคู่กับหมูแดงแบบหมูย่างซีอิ้ว ที่มีกลิ่นหอมธรรมชาติ แต่อย่าได้พลาดสั่ง "ก้ามปูทะเลพิเศษ" มาใส่อีกต่างหาก เพราะว่าที่นี่ใช้แต่ก้ามปูยักษ์ แค่เห็นแล้วก็แทบจะไม่นึกว่าก้ามอย่างนี้จะมีขายในเมืองไทย เพราะว่าส่วนใหญ่เศรษฐีจีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ เหมาเอาไปกินหมด
   
       แต่ที่นี่.. รับรองว่าก้ามปูทะเลยักษ์มีขายทุกวันไม่เคยขาด…พลาดไม่ได้!!
   
       อีกจานหนึ่งขอแนะนำว่าจะต้องมากินด้วยกันเป็น "เกี๊ยวกุ้งทอดกรอบ" แล้วก็ขอบอกว่า ไม่ใช่เกี๊ยวกุ้งทะเลธรรมดา แต่ว่าเป็นกุ้งทะเลยักษ์ตัวใหญ่คับปากจิ้มกับน้ำบ๊วยกอที่เขาผสมเอง รสเข้มข้นคนกินเข้มแข็ง จ่ายแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อยแต่..อร่อยเกินราคา
   
       อาหารอย่างอื่นที่พอกินได้ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่เกินไปก็มี กระเพาะปลา หรือหูฉลามแบบราคาไม่แพง

       รวมทั้งข้าวหน้าไก่แบบกวางตุ้ง ถือกันว่าเป็นอาหารเสริม ส่วนจานหลักก็ต้องบะหมี่ปูทะเลกับเกี๊ยวกุ้งทะเล ถือว่าพลาดไม่ได้เด็ดขาด แล้วที่นี่เขาก็ประหลาดคือกินที่ร้านก็ราคาหนึ่ง ส่วนกินที่บ้านห่อไปก็ต้องอีกราคา เหตุผลก็เพราะว่า
   
       ห่อกลับบ้านจะต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษเพื่อจะได้เอร็ดอร่อยเหมือนกินที่ร้าน
   
       อ่านแล้วก็อย่าแปลกใจเพราะมีร้านบะหมี่แบบนี้เหมือนกัน ร้านนั้นซื้อห่อกลับบ้านก็ไม่เป็นไร ซื้อห่อกลับบ้านได้แล้วแล้วก็ราคาเท่ากับกินที่ร้าน เว้นแต่ว่า
   
       …ไปกินที่บ้านกินได้แค่บะหมี่แห้งเท่านั้น ถ้าเป็นเกี๊ยวน้ำ บะหมี่น้ำไม่ขายให้ ด้วยเหตุผลฟังง่าย..ง่ายว่า ขี้เกียจห่อน้ำให้!
   
       …ถ้าอยากจะกินจริงก็ให้หิ้วปิ่นโต เอากับเฮียซิน่า กล้า..กล้าทำก็เพราะว่าอร่อยซะอย่างจ้างก็ไม่ง้อใคร
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มิถุนายน 2553

“ต้มเลือดหมูนายใช้” ถึงใจกลมกล่อม หอมหวานน้ำต้มกระดูก

บรรยากาศภายในร้านต้มเลือดหมูนายใช้
       เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา “ผ่านมาแวะกิน” แวะเวียนไปทำธุระที่เขตลาดพร้าว พอใกล้เที่ยงเลยออกมาหาของอร่อยกินในละแวกใกล้ๆ เดินออกมาสักหน่อยก็เห็นร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมถนนมีลูกค้าเต็มร้าน เห็นป้ายชื่อร้านเขียนว่า “ต้มเลือดหมูนายใช้” ก็เลยแวะเข้าไปลองชิม
    
       ร้าน “ต้มเลือดหมูนายใช้” เปิดมาได้ 8-9 ปีแล้ว ซึ่งก็เริ่มต้นมาจากการขายต้มเลือดหมูเพียงอย่างเดียว ก่อนจะขยับขยายมาขายเมนูอร่อยเมนูอื่นด้วย ซึ่งนอกจากจะมีสาขาที่ซอยลาดพร้าว 71 แห่งนี้แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งสาขาอยู่ที่จังหวัดอยุธยา บนถนนสายบางปะหัน บริเวณตรงข้ามกับศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด
ต้มเลือดหมู
       ลองชิมเมนูเด่นของร้านซึ่งก็คือ ต้มเลือดหมู (35 บาท) ที่มีความเด็ดอยู่ที่น้ำซุปต้มกระดูก ซึ่งจะใช้กระดูกหมูล้วนๆ มาต้มเป็นน้ำซุปพร้อมกับใส่รากผักชี กระเทียม และพริกไทย เพื่อเพิ่มความหอม ส่วนเครื่องต่างๆ ที่ใส่นั้นก็มีทั้งหมูชิ้น ที่จะใช้เนื้อหมูส่วนสันนอกมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ แล้วนำไปลวก หมูเด้ง ที่ใช้เนื้อหมูบดมาปรุงรสแล้วปั่นให้ละเอียด ตับหมู ไส้หมู หัวใจ กระเพาะ ลิ้น และเซี่ยงจี้ ที่เป็นของเด็ดในชาม โดยจะต้องล้างทำความสะอาดให้ถูกวิธีเพื่อไม่ให้มีกลิ่นเหม็น ส่วนเลือดหมูที่ใช้ก็จะเลือกใช้เลือดหมูแท้ๆ มาต้มกับน้ำเปล่า
    
       ผักที่ใช้ ก็จะเลือกใช้ใบตำลึง ส่วนใครที่ไม่ชอบใบตำลึงก็ยังมีผักกาดหอมใส่ลงไปให้ จากนั้นก็โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว กากหมู ตั้งฉ่าย และใบขึ้นฉ่าย ยกมาเสิร์ฟแบบร้อนๆ หอมกรุ่น ลองชิมแล้วรสชาติหวานน้ำต้มกระดูก ไม่มีกลิ่นคาวจากเครื่องใน หมูชิ้นและหมูเด้งนุ่มลิ้น ต้มเลือดหมูอร่อยๆ แบบนี้ก็ต้องสั่งข้าวเปล่า (5 บาท) มากินคู่กันด้วย
ข้าวซี่โครงหมูอบ
       เมนูถัดไปเป็น ข้าวซี่โครงหมูอบ (35 บาท) ที่เลือกใช้ซี่โครงหมูอ่อนนำมาตุ๋นรวมกับอบเชยและเครื่องปรุงรสต่างๆ ใส่น้ำซุปที่ได้จากการต้มกระดูกของต้มเลือดหมู ตุ๋นอยู่นานกว่าสองชั่วโมง ก็จะได้ซี่โครงหมูอบนำมาราดข้าวสวยร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมกับคะน้าฮ่องกงลวก และกินคู่กับพริกน้ำส้ม พริกสด และกระเทียมสด ลองชิมจานนี้แล้งคล้ายๆ กับข้าวขาหมู แต่ต่างกันที่ใช้ซี่โครงหมูอ่อนมาตุ๋นแทน ทำให้ไม่มัน รสชาติหวานๆ เค็มๆ เข้ากับพริกน้ำส้มที่ให้รสเปรี้ยว
    
       ต่อกันด้วย กระดูกหมูมะระ (35 บาท) ที่จะใช้น้ำซุปเดียวกับต้มเลือดหมู รวมถึงกระดูกหมูที่นำมาต้มน้ำซุปด้วย ส่วยมะระก็จะใช้มะระจีนลูกใหญ่นำมาตุ๋นกับน้ำเปล่า 2-3 ชั่วโมง ก่อนจะนำกระดูกหมูและน้ำซุปมาใส่ ใช้ไฟเบาเพื่อไม่ให้มะระขม และปรุงรสเล็กน้อย ชิมต้มมะระถ้วยนี้ซดร้อนๆ คล่องคอ มะระเปื่อยนุ่ม ไม่เละ ไม่ขม
กระดูกหมูมะระ
       และนอกจากเมนูข้าวแล้ว ทางร้านก็ยังมีเมนูก๋วยเตี๋ยวให้เลือกชิมอีกด้วย ซึ่งก็คือ ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ (30 บาท) ที่มีให้เลือกทั้งแบบแห้งและน้ำ เส้นที่มีให้เลือกก็มีทั้งเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ วุ้นเส้น บะหมี่ และเกี้ยมอี๋ ส่วนที่เราเลือกชิมในวันนี้ก็คือ เส้นเล็กแห้งต้มยำ ที่ทางร้านจะปรุงมาให้เสร็จสรรพ ทั้งพริก ถั่วลิสงคั่วบด และยังมีมะนาวใส่มาให้บีบเพิ่ม ส่วนเครื่องต่างๆ ก็ใส่ทั้งหมูบะช่อ ตับหมู เนื้อหมู และไส้หมู ชิมแล้วก๋วยเตี๋ยวรสจัดจ้านแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม แค่บีบมะนาวใส่ไปอีกเล็กน้อยก็พอ
    
       ส่วนเมนูอื่นๆ ที่ทางร้านมีให้เลือกชิมก็คือ ข้าวต้มกระเพาะหมู (35 บาท) ข้าวต้มหมูบด (35 บาท) ก๋วยจั๊บน้ำใส (35 บาท) ลูกชิ้นเนื้อหมู, เอ็นหมู (ไม้ละ 12 บาท) ซึ่งหากใครอยากชิมต้มเลือดหมูอร่อยๆ แบบนี้ ก็ต้องแวะเวียนมาที่ร้าน “ต้มเลือดหมูนายใช้” ทั้งที่สาขาลาดพร้าว 71 และที่สาขาอยุธยา
ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      ร้าน “ต้มเลือดหมูนายใช้” ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 71 บนถนนลาดพร้าว การเดินทางถ้ามาจากถนนลาดพร้าว ให้เลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 71 ตรงไปเรื่อยๆ จนเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ก็จะเจอสามแยกอีกครั้ง ให้เลี้ยวขวา แล้วตรงไปผ่านปั๊มบางจากมาเล็กน้อย จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือริมถนน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 9.30-21.00 น. วันอาทิตย์เปิดเวลา 9.30-16.00 น. (หยุดวันอาทิตย์ปลายเดือน) โทร. 08-05902388 ส่วนสาขาที่อยุธยา ตั้งอยู่บนถนนสายบางปะหัน ตรงข้ามกับศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด โทร. 08-1987-7273


ASTV ผู้จัดการออนไลน์
       

“วัชระโภชนา” ข้าวต้มรสเด็ด กับอาหารหลากเมนูชวนอร่อย

 ใครที่ผ่านไปผ่านมาแถว ถ.จรัญสนิทวงศ์ ช่วงนี้ ก็คงจะรู้สึกเซ็งกับการจราจรที่ติดขัดเสียเหลือเกิน การที่ต้องเสียเวลามากมายไปบนท้องถนนก็ทำให้เกิดอาการท้องร้องขึ้นมาอยู่เหมือนกัน เหมือนกับ “ผ่านมาแวะกิน” ที่จำจะต้องมาทำธุระในละแวกนี้ ด้วยความหิวโหยจึงแวะมาหาอะไรใส่ท้องกันที่ร้าน “วัชระโภชนา” ร้านเด็ดเจ้าดังที่เคยได้รับการแนะนำจากเพื่อนฝูงว่าให้มาลองลิ้มชิมรส


บรรยากาศที่นั่งภายในร้าน
       “วัชระโภชนา” เป็นร้านข้าวต้มที่มีอาหารให้เลือกลิ้มรสกันมากมาย เปิดให้ลิ้มลองความอร่อยกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 จนมาถึงทุกวันนี้ก็ยังคงความอร่อยไว้เช่นเดิม อาหารภายในร้านก็มีทั้งอาหารไทยๆ และอาหารจีน ที่เป็นเมนูตามแต่จะสั่งเป็นร้อยเมนู นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารทำสำเร็จเปิดขายกันหน้าร้านทุกวัน วันละประมาณ 6 เมนู ที่เป็นเมนูยืนพื้นก็อย่างเช่น จับฉ่าย ไส้หมูพะโล้ ขาหมูพะโล้ หน่อไม้จีนน้ำแดง หรือน้ำแกงตุ๋นต่างๆ

หอยลายผัดพริกเผา
       แวะเวียนเข้ามาในร้านด้วยความหิวโหย เราก็เลยไม่รอช้า ขอสั่งเมนูอร่อยมาลิ้มชิมรสกันในทันที เริ่มด้วย หอยลายผัดพริกเผา (80 บาท) จานนี้เลือกใช้หอยลายสดๆ มาล้างให้สะอาดนำมาผัดกับน้ำพริกเผา ใส่พริกสดและกระเทียมโขลกหยาบๆ ปรุงรสให้เรียบร้อย แล้วใส่ใบโหระพา ยกมาเสิร์ฟร้อนๆ ลองชิมได้รสชาติออกเค็มๆ เผ็ดๆ หอมกลิ่นโหระพา กินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยเหาะไปเลย

คะน้าฮ่องกงน้ำมันหอยกุ้ง
       เมนูถัดมาขอสั่ง คะน้าฮ่องกงน้ำมันหอยกุ้ง (120 บาท) จานนี้ใช้ผักคะน้าฮ่องกง เลือกเอาแต่ส่วนยอดอ่อนๆ มาผัดกับกระเทียมและน้ำมันหอย ใส่กุ้งแชบ๊วยตัวโต ลองชิมเมนูนี้แล้วผักคะน้ากรุบกรอบ ไม่เหม็นเขียว ได้รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นกระเทียม กุ้งก็เนื้อหวานอร่อยเข้ากันดีกับผัดผัก

กุ้งชาววัง
       ต่อกันด้วย กุ้งชาววัง (150 บาท) เมนูนี้ใช้นมสดผัดกับน้ำมันพริกเผาและเครื่องปรุงรสต่างๆให้เข้ากัน จากนั้นก็ใส่กุ้งแชบ๊วยลงไปผัดคลุกเคล้าแค่พอสุก กุ้งชาววังจานนี้กลิ่นหอมชวนหิวมาแต่ไกล ส่วนรสชาติก็อร่อยไม่แพ้จานอื่น หอมมันกลมกล่อม เนื้อกุ้งหวานสด สีสันชวนกิน

แปะซะปลาช่อน
       ปิดท้ายให้อิ่มหนำกันด้วยเมนูเด็ด แปะซะปลาช่อน (250 บาท) ที่จะใช้ปลาช่อนสดทั้งตัวนำมาทอดให้กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาในหม้อไฟร้อนๆ พร้อมด้วยน้ำแกงส้มที่ทางร้านโขลกเครื่องแกงเอง ปรุงรสมาเสร็จสรรพ ใส่ผักรวมนานาชนิด ทั้งกะหล่ำปลี ผักกาดขาว เห็ดเข็มทอง ข้าวโพดอ่อน ผักกระเฉด และดอกขจร ลองชิมตอนร้อนๆ ซดแล้วคล่องคอ รสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ครบรส เข้มข้นจัดจ้านถูกใจ
       นอกจากเมนูที่แนะนำกันไปแล้ว ก็ยังมีของอร่อยที่อยากให้มาลองลิ้มกันอีก อาทิ สะตอกุ้ง (120 บาท) ไข่เจียวปู (80 บาท) ต้มซุปเปอร์ (70 บาท) หมูดาวเทียม (70 บาท) ปลากะพงผัดขึ้นฉ่าย (150 บาท) เป็นต้น ที่จะสั่งมากินกับข้าวสวย (ถ้วยละ 10 บาท) หรือข้าวต้ม (ถ้วยละ 5 บาท) ก็อร่อยได้เช่นกัน
    
       ถึงแม้ว่าบน ถ.จรัญฯช่วงนี้ จะสร้างอุโมงค์ ขุดถนน หรืออะไรก็ตาม แต่ร้าน “วัชระโภชนา” ก็ยังเปิดขายให้นักชิมแวะมาลิ้มลองความอร่อยแบบนี้ได้เหมือนเดิม

       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
    
       ร้าน “วัชระโภชนา” ตั้งอยู่ที่ 216/19-20 ถ.จรัญสนิทวงศ์ เขตบางกอกน้อย กทม. การเดินทางจากโรงพยาบาลศิริราช มุ่งหน้าตรงมายังสี่แยกพรานนก ตรงมาจนถึงสามแยกไฟฉายแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นธนาคารออมสินทางซ้ายมือ แล้วให้ชิดขวา กลับรถมาฝั่งตรงข้าม วิ่งมาเรื่อยๆ จนถึงซอยจรัญสนิทวงศ์ 29 สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นร้านวัชระโภชนาตั้งอยู่ริมถนน (ตรงข้ามกับธนาคารออมสิน) สามารถจอดรถได้ที่บริเวณหลังตลาดนครหลวง (เลยร้านไปอีกเล็กน้อย) ร้านเปิดทุกวัน เวลา 16.00-05.00 น. โทร. 08-7518-5964 



ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ตุลาคม 2554